ปุจฉา วิสัชนา หญ้าปักกิ่ง
โลกของความรู้สมุนไพรในวันนี้ เป็นโลกขององค์ความรู้และประสบการณ์จากอดีตและปัจจุบันมาบรรจบกัน เหมือนกับคุณปู่คุณย่าปะทะสังสรรค์กับคนรุ่น D2B ที่มักเจอช่องว่างของการนำเอาความรู้มาใช้อย่างเหมาะสม อาจจะเนื่องด้วยสังคมวัฒนธรรมที่แปลเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ทำให้ข้อมูลจากตำราและหมอยา เมื่อเจอการตลาดและการผลิตแบบใหม่ ซึ่งเป็นสังคมบริโภคและค้าขายอย่างรุนแรง ทำให้ประโยชน์กลายเป็นผลข้างเคียงได้ง่ายๆ
ปัจจุบันนี้มีข่าวเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรแล้วเกิดอันตรายอยู่เนืองๆ ที่กำลังดังและเป็นข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการใช้หญ้าปักกิ่ง ซึ่งเป็นทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็งนั่น มีผู้สอบถามเข้ามายังมูลนิธิสุขภาพไทยซึ่งดำเนินงานเป็นสำนักเลขาฯ ให้กับชมรมหญ้าปักกิ่ง ชมรมนี้เกิดจากผู้อาวุโสใจกุศลจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะคุณลุง ณรงค์ สุทธิกุลพาณิช ปรารถนาเผยแพร่แนวทางเลือกให้กับผู้ป่วยมะเร็ง
กว่า 1-2 ปีที่ผ่านมามีผู้สอบถามถึงวิธีใช้ และแหล่งหาหญ้าปักกิ่งจำนวนมากรายจนรับโทรศัพท์ไม่ไหว จนระยะหลังนี้มีข่าวว่า ผู้ใช้หญ้าปักกิ่งแล้วเกิดอาการมือเท้าอ่อนแรง ทำให้ผู้สงสัยสอบถามมากขึ้น
ซึ่งเรามาทำความเข้าใจในเหตุการณ์นี้ จาก ประสบการณ์และข้อมูลของทางมูลนิธิ คงจะบอกต่อให้เกิดการใช้ที่ถูกต้องได้ว่า หญ้าปักกิ่งเป็นสมุนไพรซึ่งมาพร้อมหลักการหรือทฤษฎีการแพทย์แบบตะวันออก ซึ่งไม่ได้มีเพียงสารสำคัญของตัวยา แต่สมุนไพรแต่ละชนิดมีคุณสมบัติร้อนหรือเย็นด้วย เหมือนรสยาไทยที่มี 9 รส ดังนั้น หญ้าปักกิ่งเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเย็น เหมือนกับสมุนไพรชนิดอื่นที่มีคุณสมบัติเย็น เช่น ต้นฟ้าทลายโจร
เมื่อหญ้าปักกิ่งมีคุณสมบัติทางยาเช่นนี้ ผู้ที่กินยาแล้วมีสภาพร่างกายเย็นเป็นพื้นฐาน เมื่อดื่มน้ำคั้นหญ้าปักกิ่งเข้าไป อาจมีอาการข้างเคียง เช่น เป็นตะคริว มือเท้าไม่มีแรง และอาจมีอาการท้องอืดเฟ้อด้วย ซึ่งองค์ความรู้ที่สะสมมาหรืออาจพูดได้ว่าภูมิปัญญาแบบตะวันออกนั้น มีทางแก้ไขไว้ด้วยการผสมขิงแก่ซึ่งมีคุณสมบัติร้อนลงไปผสมกับหญ้าปักกิ่ง
วิธีการที่เป็นรูปธรรมคือ วิธีใช้หญ้าปักกิ่ง
จะใช้ ต้นหญ้าปักกิ่ง 2-3 ต้น ล้างน้ำให้สะอาด นำมาตำให้ละเอียดในครกดินเผาหรือครกไม้ (ควรเป็นครกใหม่) แล้วเติมน้ำสุก 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง นำน้ำคั้นมาดื่มวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้าครึ่งชั่วโมง และก่อนนอน
แต่ท่านใดที่เป็นคนมีธาตุเย็น หรือกินไปแล้วเริ่มมีอาการดังว่า ต้องผสมขิงแก่ลงไป 2-3 ชิ้นตำพร้อมกับหญ้าปักกิ่ง เพื่อลดความเย็นของหญ้าปักกิ่งนั้นเอง
ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งของผู้ใช้หญ้าปักกิ่งแล้วเกิดอาการข้างเคียงคือ การกินยาในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากมีผู้ป่วยหลายรายใช้หญ้าปักกิ่งเป็นกิโลกิโลตำคั้นน้ำดื่มวันละ หลายแก้ว ซึ่งเท่ากับกินยามากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ร่างกายเย็นจัด จึงเกิดอาการข้างเคียงได้ง่าย
หลักการกินยาคงเป็นหลักสากลที่ผู้ป่วยและญาติต้องสังเกตุร่างกายของคนไข้ว่า หลังกินยาแล้วมีอาการข้างเคียงอย่างไร เพื่อที่จะปรับลดหรือเปลี่ยนตำรับยา หากเราเข้าใจคำว่าประกอบโรคศิลปะ หรือการรักษาโรคนั้นต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ การปฏิบัติเวชกรรมแผนตะวันออกหรือแผนไทยแต่เดิมนั้น ก็เป็นการรักษาหรือจัดยาสมุนไพรให้เข้ากับอาการและธาตุประจำตัวของแต่ละคน ซึ่งทั้งหมอและผู้ป่วยจำเป็นต้องร่วมมือในการดูแลสุขภาพร่วมกัน
และสิ่งสำคัญยิ่งของการใช้ยาในโลกของข้อมูลข่าวสารที่ไหลบ่าจนเราไม่สามารถ แยกแยะได้ว่า อะไรเหมาะสมนั้น ขอให้ผู้ใช้ยาสมุนไพรพึ่งเข้าใจว่า หากท่านไม่มีความรู้อย่าไปปรับปรุงพลิกแพลงสูตรยา เช่น การ คั้นน้ำดื่มเพียง 2 ช้อนโต๊ะ แต่ท่านเข้าใจว่าถ้ามากกว่านี้น่าจะทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้มากขึ้น จึงผสมตัวยาให้มากขึ้นซึ่งเป็นความเข้าใจผิด และจำนวนหรือความถี่ของการใช้ยาก็มีความสำคัญเช่นกัน อย่าไปนึกคิดเอาเอง
ฝากไว้สำหรับท่านที่กินหญ้าปักกิ่งเข้าไปภายใน 7-10 วันแรก อาจจะมีอาการหงุดหงิด นอนไม่หลับ โมโหง่าย บางรายอุจจาระหรือปัสสาวะมีสีเหลืองเหมือนน้ำล้างปลา (ไม่ได้เป็นทุกคน) อาการเช่นนี้จะเป็นอยู่ระยะหนึ่ง แล้วจะหายไปเอง เพราะตัวยากำลังออกฤทธิ์ แต่ถ้าท่านใดมีอาการข้างเคียงมากกว่าหรือดูรุนแรงกว่า ก็ควรหยุดยา เพราะร่างกายอาจไม่เหมาะกับยา
และหญ้าปักกิ่งไม่ใช่ยามหัศจรรย์ ซึ่งยังไม่มียาอะไรในโลกนี้ที่เป็นยาวิเศษขนาดนั้น ดังนั้น ถ้าท่านใดกินยาเกินกว่า 20 วันแล้ว ไม่มีข้อสังเกตว่าอาการของโรคดีขึ้นบ้าง แสดงว่ายาไม่ถูกกับโรคเช่นกัน ควรจะหยุดยา หรือเปลี่ยนเป็นยาอื่น
ประสบการณ์ของผู้ใช้หญ้าปักกิ่งหลายรายประสบความสำเร็จ และมีอีกหลายรายอาการดีขึ้น แต่ก็มีที่ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน หญ้าปักกิ่งจึงเป็นสมุนไพรทางเลือกในสังคมแบบตะวันออกที่เชื่อว่า การดูแลรักษาสุขภาพอาศัยการรักษาแบบองค์รวม ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือของผู้ป่วย ญาติ การทำสมาธิ ปรับเปลี่ยนอาหารและวิถีชีวิต ซึ่งสมุนไพรเป็นตัวแทนรูปธรรมของแนวทางเช่นนี้
สมุนไพรให้คุณมาก แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี เกิดโทษได้เช่นกัน
แหล่งข้อมูล : สมุนไพรดอทคอม
อยากขอบคุณข้อมูลต่างๆ ที่ให้ค้นหา มีประโยชน์ค่ะ ตอนนี้มีคุณป้าท่านเป็นเนื้องอกที่ตับก็ทานหญ้าปักกิ่งอยู่ ถูกกันคุณป้าก็ทานมาเรื่อยๆ ท่านรู้สึกว่าไม่เจ็บตรงอกเหมื่อนก่อน แต่ผลข้างเคียงคือท้องอืดมาก
ตอบคุณ อัญ ไม่เป็นอันตรายเลยค่ะ วิธีนั้น คือวิธีดั้งเดิม ที่เริ่มใช้กัน ถ้าทำได้สด ใหม่ทุกวัน ก็จะดีมากๆ ค่ะ
ถ้าปั่นน้ำหญ้าปักกิ่งดื่มวันละประมาณ 1 แก้ว (200 ซีซี) ใช้หญ้าประมาณ 1 กำมือ ดื่มก่อนอาหารเช้าทุกวัน จะเป็นอันตรายไหมคะ คิดว่าจะดื่มเพื่อสุขภาพเหมือนน้ำผัก