โรคร้ายแรง ๕ โรค ป้องกันได้ด้วยการจัดทำ ‘สัญญาณเตือนและวิธีป้องกัน’
โรคร้ายแรง ๕ โรค ป้องกันได้ด้วยการจัดทำ ‘สัญญาณเตือนและวิธีป้องกัน’ … ท่านทำหรือยัง ?
จากบทความ “รู้ให้ลึกถึง ‘โรคร้าย’ ของคนไทย” ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) http://info.thaihealth.or.th/hilight/12322 ระบุว่า โรคร้ายที่เป็นสาเหตุให้คนไทยเสียชีวิต มากที่สุด ได้แก่ โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น
* โรคเบาหวาน
* โรคความดันโลหิตสูง
* โรคไต
* โรคหัวใจและหลอดเลือด
* โรคมะเร็ง
(สำหรับโรคติดเชื้อ หรือโรคที่เกิดจากเชื้อโรค ซึ่งรวมถึงโรคเอดส์ มีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน)
โรคบางอย่างเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก และในระยะแรกมักไม่มีอาการใด ๆ เลยก็มี เมื่อรู้ว่าเป็นโรคนั้น ๆ
ก็อาจสายไปเสียแล้วก็เป็นได้
การจัดทำสัญญาณเตือนโรคร้ายแรงและวิธีป้องกัน
ประการหนึ่งที่ผู้เขียนเห็นว่าสำคัญมาก ก็คือ การจัดทำสัญญาณเตือนโรคร้ายแรงและวิธีป้องกัน ซึ่ง
อยากให้ทุกท่านได้ทำไว้ โดยหาข้อมูลที่ดีที่สุดและล่าสุดไว้ แล้วนำไปปฏิบัติ เพื่อความไม่ประมาท
ก็จะดีมากทีเดียว
ข้อมูลนั้น อาจหาได้จากกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลต่าง ๆ หนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
เว็บไซต์ บล็อก แผ่นพับ และอื่น ๆ ที่เชื่อถือได้ นำมารวบรวมไว้ และนำไปปฏิบัติ เพื่อความไม่
ประมาท ก็จะเป็นการป้องกันที่ดีมาก หรืออาจจะรวบรวมลิงก์ข้อมูลสัญญาณเตือนและ
วิธีป้องกันจาก เว็บไซต์ บล็อก และอื่น ๆ มาไว้ที่เดียวกัน เพื่อสะดวกในการค้นหาก็ได้เหมือนกัน
แล้วแต่สะดวก
ผู้เขียนใคร่ขอย้ำไว้ ณ ที่นี้ว่า เป็นเรื่องที่ควรจัดทำโดยเร่งด่วน หากท่านยังไม่มีข้อมูลเหล่านี้ไว้
*+*
ผู้เขียนใคร่ขอยกตัวอย่างสัญญาณเตือนและวิธีป้องกันโดยย่อ ดังนี้
(ท่านควรจะหาข้อมูลที่ดีที่สุดและล่าสุดไว้
และหมั่นปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ทันสมัยอยู่เสมอ)
>> ตัวอย่างสัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน และวิธีป้องกัน
สัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน
๑. ผู้มีรูปร่างอ้วน น้ำหนักมาก มีโอกาสเป็นได้มากกว่า ผู้ที่มีรูปร่างผอม
๒. มีญาติสายตรง (พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย) เป็นเบาหวาน
๓. ถ่ายปัสสาวะบ่อยและจำนวนมาก ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางดึกหลายครั้ง
ปัสสาวะมีมดมาตอม
๔. คอแห้ง กระหายน้ำ และดื่มน้ำมาก
๕. หิวบ่อย กินจุ
๖. น้ำหนักลด ผอมลงจนอ่อนเพลีย
๗. เป็นแผล หายยาก
๘. คันตามผิวหนัง ติดเชื้อที่ผิวหนังบ่อย บางครั้งติดเชื้อรุนแรง ติดเชื้อราง่าย
๙. ชาตามปลายมือ ปลายเท้า
๑๐. ตาพร่ามัว
วิธีป้องกันโรคเบาหวาน
๑. อย่าปล่อยตัวให้อ้วน
๒. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
๓. ทานอาหารไขมันต่ำ
๔. หมั่นตรวจสอบตามสัญญาณเตือนอยู่เสมอ
๕. ไปรับการตรวจเบาหวานจากแพทย์ อย่างน้อยปีละครั้ง
*+*
>> ตัวอย่างสัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง และวิธีป้องกัน
สัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง
๑. เกิดอาการมึนงงขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
๒. ชีพจรข้างใดข้างหนึ่ง เบากว่าอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด
๓. ใบหน้าและมือบวม หรือมีสีหน้าซีดเซียว
๔. ปวดศีรษะ และวิงเวียนบ่อยๆ ระหว่างวัน หรือมีอาการปวดมึนบริเวณท้ายทอย ซึ่งมักเกิด
หลังจากตื่นนอนใหม่ๆ
๕. ปวดหลังมากๆ
๖. ปัสสาวะบ่อยๆ เวลากลางคืน หรือปัสสาวะผิดปกติ มีมากหรือน้อยเกินไป หรือมีฟองมากกว่าปกติ
๗. มีเหงื่อออกเป็นพักๆ ขึ้นมาเอง แม้ว่าไม่ได้ออกกำลังกาย ใช้แรง หรืออากาศไม่ร้อน
๘. มีอาการบวมที่เท้า ตอนบ่ายหรือตอนเย็น
๙. มีอาการปวดขาเวลาเดิน ต้องพักก่อน จึงจะเดินต่อได้
๑๐. ร่างกายอ่อนเพลียแม้ว่าจะได้พักผ่อนแล้ว
๑๑. มีอาการชาหรืออ่อนแรงตามแขนขา ทั้งชั่วคราวและถาวร ข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้าง
๑๒. เหนื่อยง่าย ใจสั่น หรือมีอาการเจ็บและแน่นหน้าอก
๑๓. นอนไม่หลับ หรือเพลียเหมือนพักผ่อนไม่พอ
๑๔. มีอาการผิดปกติที่ตา เช่น ตามัว หรือมองไม่เห็นชั่วคราว
๑๕. หงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิ
วิธีป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
๑. การลดน้ำหนัก
๒. การลดปริมาณเกลือในอาหาร
๓. การงดหรือลดการดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์
๔ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
๕. นั่งสมาธิเป็นประจำ
๖. รับการตรวจวัดความดันโลหิต
๗. ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
*+*
>> ตัวอย่างสัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคไตและวิธีป้องกัน
สัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคไต
๑. การซื้อยาทานเองเป็นประจำ หรือผลของยาบางชนิด เช่น ยาชุดต่าง ๆ ยาจีน สมุนไพร
ยาลูกกลอน
๒. ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มีโอกาสที่จะเป็นโรคไตวายในอัตราสูงกว่า
คนปกติ
๓. ผู้หญิงที่ชอบกลั้นปัสสาวะนาน ๆ และในหมู่ผู้สูงอายุ
สัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคไตอ่อนแอ (การแพทย์จีน)
๑. ปัสสาวะบ่อย กะปริดกะปรอย
๒. ปวดหลัง ปวดเอว แขนขาอ่อนแรง เป็นตะคริวง่าย หนาวปลายมือปลายเท้า ปวดตามข้อ
กระดูกพรุน
๓. นอนไม่หลับ หลับ ๆ ตื่น ๆ ฝันมาก ขี้หลงขี้ลืม ขาดสมาธิในการทำงาน วิงเวียนศีรษะ
๔. โรคภูมิแพ้ คัดจมูกเมื่ออากาศเย็นหรือชื้น หอบหืด ระคายคอบ่อย เป็นหวัดง่าย
๕. หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
๖. ใบหน้าหรือใต้ตาหมองคล้ำ ตาโหล ไม่มีเลือดฝาด ผมหงอกก่อนวัย
๗. หูอื้อ ตาพร่า
วิธีป้องกันโรคไต
๑. เมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น ปัสสาวะผิดปกติ บวมตามร่างกาย เหนื่อยง่าย ปวดเอว ควรปรึกษา
แพทย์
๒. พยายามหลีกเลี่ยงสารที่มีพิษต่อไต เช่น ยาแก้ปวด เป็นต้น
๓. โรคเรื้อรังบางอย่าง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มักมีปัญหาไตวายตามมา ควรได้รับการ
รักษาและตรวจการทำงานของไตอย่างสม่ำเสมอ
วิธีป้องกันโรคไต (การแพทย์จีน)
๑. รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์
๒. ควบคุมอารมณ์ให้แจ่มใส
๓. ออกกำลังกายเป็นประจำ
๔. มีเพศสัมพันธ์ที่พอเหมาะ
*+*
>> ตัวอย่างสัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด และวิธีป้องกัน
สัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
๑. อ่อนเพลีย หมดแรง
๒. เจ็บแน่นหน้าอก
๓. ใจเต้นแรง ใจสั่น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
๔. หอบไอเวลาออกแรง หรือนอนราบไม่ได้
๕. บวมบริเวณเท้า, ท้อง
๖. เป็นลมหมดสติ
๗. ริมฝีปากเขียว ลิ้นเขียว
วิธีป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
๑. ออกกำลังกายเป็นนิจ ทำให้หัวใจมีสมรรถภาพที่ดีขึ้น เช่น เดิน วิ่งเหยาะ กายบริหารเต้นแอโรบิค
รำมวยจีน ฯลฯ
๒. ลิขิตน้ำหนักตัวตน จากการศึกษาพบว่า แค่อ้วนก็มีโอกาสเกิดตะกรันไขมันในหลอดเลือดได้แล้ว
โดยเฉพาะอ้วนแบบลงพุง
๓. กินผลไม้และผัก โดยมีหลักการบริโภคตามแบบของกระทรวงสาธารณสุข คือ กินผักอย่างน้อย
๕ ทัพพี ผลไม้อย่างน้อย ๕ ถ้วย เลือกผัก ผลไม้ ให้หลากหลาย โดยเฉพาะที่มีเส้นใยประกอบ
๔. อย่าปล่อยให้เครียดนานนัก
๕. อย่าเร่งรุดทำลายชีวิตเพราะติดยา (บุหรี่)
๖. รักษาระดับความดัน เพราะความดันโลหิตเป็นสัญญาณชีวิต แสดงให้รู้ถึงการทำงานของหัวใจ
โดยค่าความดันปกติของคนไม่ควรเกิน ๑๓๐/๘๐ มิลลิเมตรปรอท คนที่สูงกว่าถือว่า มีความผิด
ปกติ เนื่องจากหลอดเลือดแข็ง
๗. ควบคุมระดับไขมัน
๘. เฝ้าระวังเบาหวาน
๙. ตรวจสุขภาพหัวใจตามกาล
๑๐. ทุกวันใส่ใจดูแลหัวใจตน
*+*
>> ตัวอย่างสัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งและวิธีป้องกัน
สัญญาณเตือนผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคมะเร็ง
๑. หูด ปาน ไฝ หรือ ก้อนที่โตขึ้นเรื่อย ๆ ผิดปกติ
๒. มีแผลเรื้อรังรักษาไม่หาย
๓. เจ็บคอคล้ายก้างปลาติดคอ คัดจมูกมีเลือดออกทางจมูก หูอื้อ ปวดหัว
๔. เสียงแหบ ไอ มีเสมหะปนเลือด
๕. กลืนอาหารลำบาก อาหารไม่ย่อย ท้องอืด น้ำหนักลด
๖. ตกเลือด ตกขาว ปัสสาวะเป็นเลือด ปวดในท้องน้อย
๗. ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจจาระเป็นมูกปนเลือด
วิธีป้องกันโรคมะเร็ง
๑. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
(มะเร็งปอด – เลิกหรือลดการสูบบุหรี่, มะเร็งตับ – หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกปลาร้า ปลาส้ม,
มะเร็งปากมดลูก – หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย, มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
โดยการมีคู่นอนคนเดียว และใช้ถุงยางอนามัย, มะเร็งผิวหนัง – หลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนจัด
เป็นเวลานาน ๆ, มะเร็งช่องปาก – หลีกเลี่ยงการกินหมาก, ให้ความสำคัญในการรักษาความ
สะอาดในช่องปาก, มะเร็งลำไส้ – หลีกเลี่ยงอาหารประเภทปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม, รับประทานอาหาร
ที่มีกากและเส้นใย)
๒. การตรวจค้นหามะเร็งให้พบก่อนมะเร็งมีการลุกลามหรือแพร่กระจาย
๓. การให้วัคซีนเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งบางชนิด
(วัคซีนตับอักเสบบี ป้องกันมะเร็งตับ และวัคซีนเอชพีวี ป้องกันมะเร็งปากมดลูก)
หมายเหตุ : สัญญาณเตือนดังกล่าวข้างต้น ไม่จำเป็นจะต้องมีสัญญาณครบทุกข้อ เมื่อมีสิ่งผิดปกติ
ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
*+*
(ตัวอย่างสัญญาณเตือนและวิธีป้องกัน ข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างที่ยกมา เพื่อให้ผู้อ่านทราบเท่านั้น
ยังขาดความสมบูรณ์อยู่อีกมาก จึงควรหาข้อมูลที่ดีที่สุดและล่าสุด มาจัดทำขึ้นไว้สำหรับท่านเอง
เพื่อทราบและนำไปปฏิบัติ รวมทั้งมีข้อมูลหรือลิงก์อ้างอิงไว้ด้วย ก็จะเป็นการดีมากทีเดียว)
สุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญสุด จึงควรห่วงใยต่อสุขภาพของท่านให้มาก เมื่อท่านมีสุขภาพดี การศึกษาก็ดี
การงาน หรือธุรกิจ ที่ท่านประกอบก็ดี ก็จะราบรื่นไปได้ด้วยดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=688961